วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทความ

 
 
สรุปบทความ
 
 
วิทยาศาสตร์ แสนสนุก  
   เด็กเป็นนักค้นคว้าเพื่อการเรียนรู้โดยธรรมชาติ  การหยิบจับ  สัมผัส  และการสังเกต เป็นวิธีการเรียนวิทยา-ศาสตร์  พฤติกรรมการเรียนวิทยาศาสตร์ของเด็ก  คล้ายกับการเรียนเหตุผลทางคณิตศาสตร์   เช่น  การจำแนก การเปรียบเทียบ  การหาความสัมพันธ์ของวัตถุ  การเรียนวิทยาศาสตร์และการเรียนคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยจึงพัฒนาควบคู่กัน  แต่การเรียนวิทยาศาสตร์จะเน้นการเรียนทักษะวิทยาศาสตร์และธรรมชาติรอบตัว  ได้แก่  เรื่องพืช  สัตว์  เวลา  ฤดูกาล  น้ำ  และอากาศร่วมด้วย
 
         โดยพื้นฐานแล้ว  วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของการสังเกตโลกรอบตัวและการสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับสิ่งที่เห็น ศึกษาตั้งแต่สิ่งเล็ก ๆ อย่างเช่นแมลงในสนามหญ้า ไปจนถึงสิ่งใหญ่ ๆ อย่างดวงดาว  ในขณะที่เด็ก ๆ กำลังมองผ่านกล้องจุลทรรศน์หรือกล้องส่องทางไกล นั่นเท่ากับว่าเด็ก ๆ กำลังเก็บรายละเอียดหรือเก็บข้อมูล ยิ่งดูมาก สังเกตมาก ก็ยิ่งได้ข้อมูลมาก 
                เคยได้ยินเด็ก ๆ  ตั้งคำถามแบบนี้กันบ้างไหม...  ทำไมปลาไม่นอน  ทำไมต้นหญ้าหน้าตาเหมือนต้นข้าว ภาพในโทรทัศน์เกิดขึ้นได้อย่างไร   ทำไมเรือลำใหญ่ ๆ จึงไม่จมน้ำ  ดาวหายไปไหนในตอนกลางวัน   คำถามมากมายจากสมองน้อย ๆ   เด็ก ๆ คิดคำตอบเหล่านี้บ้างไหม แล้วมีใครเคยคิดคำตอบไว้บ้างหรือยัง ปัญหาชวนฉงนเหล่านี้  คือจุดเริ่มต้นของทักษะทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญซึ่งพ่อแม่  ผู้ปกครอง และครู ไม่ควรมองข้าม
 
แนวทางการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ปฐมวัย 
               เมื่อเด็กช่างซักถาม  อย่าทำท่ารำคาญ  แต่ต้องพยายามตอบคำถามให้ได้มากที่สุดสร้างสภาพแวดล้อมทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นภายในบ้าน  ห้องเรียน  หาหนังสือเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์สำคัญของโลก  การทดลองสนุก ๆ หรือเกร็ดความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาเตรียมไว้เสมอปลูกฝังความคิดทางวิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น  พาเด็ก ๆ เดินไปตามเส้นทางรอบ ๆ บริเวณโรงเรียน กระตุ้นให้เด็กสังเกตสิ่งรอบตัวแล้วนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะ เพราะการได้เห็น  ได้สัมผัสจากของจริง  จะช่วยกระตุ้นความใฝ่รู้ของเด็กได้อีกมาก
 
               การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัยเป็นการตอบสนองและส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในการเรียนรู้โลกธรรมชาติรอบตัวและพัฒนาทักษะทางสติปัญญาต่าง ๆ เนื่องจากเด็กในระดับปฐมวัยมีธรรมชาติของการสืบเสาะหาความรู้แบบวิทยาศาสตร์อยู่ในตนเอง  การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้อย่างเหมาะสม  โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และค้นพบด้วยตนเองมากที่สุด  ให้ได้ทั้งกระบวนการเรียนรู้และองค์ความรู้ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจะช่วยส่งเสริมศักยภาพของเด็กในการพัฒนากรอบแนวคิดและทักษะต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาในอนาคต
สรุปโดยรวม...        
กิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์  เป็นการเรียนรู้ที่มีจุดมุ่งหมาย  2  ประการ  คือ
1.  การฝึกทักษะพื้นฐาน ทางวิทยาศาสตร์
2.  การเรียนรู้ข้อความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็นธรรมชาติรอบตัวที่เด็กพบในชีวิตประจำวัน   โดยเน้น
     การใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ คือ  1) การสังเกต   2) การจำแนก  เปรียบเทียบ        3) การวัด  4) การสื่อสาร      5) การทดลอง     และ 6) การสรุปและนำไปใช้ 
           สิ่งที่ได้จากการเรียนวิทยาศาสตร์ คือ  การสร้างให้เด็กมีนิสัยค้นคว้า  การสืบเสาะ  และการทำความเข้าใจธรรมชาติรอบตัว  รู้จักวิธีการค้นหาความรู้อย่างนักวิทยาศาสตร์ โดยการพัฒนาทักษะพื้นฐานวิทยาศาสตร์  กระบวนการทางวิทยาศาสตร์  ในขณะเดียวกันเรียนรู้วิทยาศาสตร์รอบตัวไปด้วย
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น